เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2567 ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (คปธ.) ครั้งที่ 5/2567 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีกรรมการซึ่งประกอบด้วยผู้แทนหน่วยงาน ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมเป็นกรรมการ มีเลขาธิการ ก.พ.ร. เป็นกรรมการและเลขานุการ ที่ประชุมมีมติรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการของ คปธ. และคณะอนุกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจ ทั้ง 4 คณะ และพิจารณาแนวทางการดำเนินการต่อไป เช่น
- การปรับปรุงบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ระหว่างเสนอธุรกิจที่ให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตในการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว จำนวน 10 ธุรกิจ ซึ่งมีแผนและระยะเวลาการดำเนินการที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2567
- การแจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าวเมื่ออาศัยอยู่ในราชอาณาจักรครบ 90 วัน ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีระบบแจ้งที่พักอาศัยออนไลน์ โดยสามารถแจ้งผ่านระบบออนไลน์ได้ล่วงหน้า 15 วัน ก่อนครบกำหนด ซึ่งควรมีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้เข้าใจเพิ่มเติม
- ข้อเสนอการปรับปรุงกระบวนการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment: EIA) โดยประธาน คปธ. จะขอเข้าหารือกับผู้บริหารของสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เพื่อหารือแนวทางการลดระยะเวลาการพิจารณารายงาน EIA และเร่งรัดการแก้ไขประกาศ สผ. เรื่อง แนวทางการจัดส่งรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม เพื่อยกเลิกหรือผ่อนผันการส่งต้นฉบับและสำเนารายงานฯ ซึ่งจะช่วยลดภาระแก่ประชาชนและผู้ประกอบการ
- การปรับกระบวนการการต่ออายุใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม โดยใช้แนวทางการชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต
- การยกเว้นการขอใบอนุญาตทำงาน (Work permit) เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดงานเทศกาลดนตรี ซึ่งกรมการจัดหางานอยู่ระหว่างแก้ไขประกาศกรมการจัดหางาน เรื่อง กำหนดงานอันมีลักษณะจำเป็นหรือเร่งด่วนหรืองานเฉพาะกิจ เพื่อเพิ่มงานเทศกาลดนตรีหรืองานคอนเสิร์ตที่หน่วยงานภาครัฐให้การสนับสนุน เป็นงานอันมีลักษณะจำเป็นหรือเร่งด่วนที่สามารถเข้ามาทำงานไม่เกิน 15 วัน ซึ่งคาดว่าจะออกประกาศฯ ได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2567
- การขยายการให้บริการศูนย์ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ (BFMCC) ให้ครอบคลุมพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่นๆ ในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งกรุงเทพมหานครอยู่ระหว่างพัฒนาระบบ Traffy Fondue เพื่อนำมาในการพิจารณาอนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ และคาดว่าจะเปิดให้บริการขยายผลการยื่นคำขออนุญาตใช้พื้นที่ในกรุงเทพมหานครของหน่วยงานอื่น ๆ ผ่าน BFMCC เดือนกรกฎาคม 2567
- การแก้ไขกฎกระทรวง กำหนดประเภท ชนิด และขนาดของโรงงาน พ.ศ. 2563 ของกรมโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อกำหนดให้โครงการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ชนิดติดตั้งบนหลังคา ทุกกำลังการผลิตไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน
นอกจากนี้ ที่ประชุมรับทราบผลการประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานในการปรับปรุงกฎหมายฯ และความก้าวหน้าการดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย
✅ การขับเคลื่อนการดำเนินการนำร่องศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียวจังหวัดหนองคายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ที่มอบหมายให้กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาระบบ Single Submission ของด่านศุลกากรหนองคาย มีเป้าหมายระยะแรกเปิดทดลองระบบ ภายในวันที่ 1 กันยายน 2567 โดยจะทำระบบในเรื่องสินค้าเกษตร (ผักและผลไม้) ก่อน และสำนักงาน ก.พ.ร. ได้แนะนำให้นำฟังก์ชัน เช่น Smart Tracking/Smart Info/Smart payment มาใช้ และควรให้ภาคเอกชนที่จังหวัดหนองคายทดลองใช้งานก่อน และจะพัฒนาต่อเนื่องให้เปิดระบบเต็มรูปแบบภายในวันที่ 1 ตุลาคม 2567
✅ การปรับปรุงกฎระเบียบเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย และกฎระเบียบอื่นที่กรมวิชาการเกษตรรับผิดชอบ ซึ่งจะได้จัดตั้งคณะทำงานระหว่างกรมวิชาการเกษตรและสำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อศึกษาและนำร่องดำเนินการการชำระค่าธรรมเนียมแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต และการพัฒนาบริการในรูปแบบ Fast track รวมทั้งเตรียมความพร้อมภายหลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน พ.ศ. …. มีผลบังคับใช้
✅ การขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างออสเตรเลียและไทยในการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจและการลุงทุน เช่น การลดขั้นตอนและอุปสรรคที่ยุ่งยากซับซ้อน (Red Tape) ในการขอใบอนุญาต การขนส่งสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green Shipping) และการสร้างระบบนิเวศในการประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่สอดคล้องกับเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Green Gas Emission) ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยจะได้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลความก้าวหน้าของการดำเนินงานให้แก่หอการค้าและนักลงทุนจากออสเตรเลียได้รับทราบต่อไป
(>) ทั้งนี้ ประธาน คปธ. ได้กำหนดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงาน และพิจารณาประเด็นการปรับปรุงกฎหมายเพื่อความสะดวกในการประกอบธุรกิจของแต่ละคณะอนุกรรมการต่อไป
ฝ่ายเลขานุการ คปธ.