เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2565 ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (สำนักงาน ป.ย.ป.) ได้เข้าร่วมประชุมการติดตามและประเมินผลการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดองของกระทรวงศึกษาธิการ  ในการประชุมดังกล่าวมี นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานการประชุม ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยผู้บริหารและข้าราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ กลุ่ม ป.ย.ป. กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สำนักงานคณะกรรมการ สกสค. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษานอกโรงเรียน สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานการศึกษาภาคต่าง ๆ สถาบันทดสอบการศึกษาแห่งชาติ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ จำนวน 60 คน ณ ห้องประชุมบงกชรัตน์ โรงแรมรอยัลริเวอร์ บางพลัด กรุงเทพมหานคร

          ในการประชุมดังกล่าว ได้มีการติดตามผลการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บท และแผนย่อยในระดับต่าง ๆ รวมถึงการทบทวนผลการดำเนินการและตัวชี้วัดว่าสอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายในแต่ละแผนหรือไม่ ในการนี้ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ย.ป. ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อนแผนแต่ละระดับในหลายประเด็น ได้แก่ ควรมีการหารือเกี่ยวกับตัวชี้วัดระหว่างสำนักงานสภาพัฒนาการเศษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน โดยสำนักงาน ป.ย.ป. จะรับไปประสานเพื่อให้มีการหารือดังกล่าวร่วมกัน กรณีการกำหนดตัวชี้วัดที่เป็นการจัดอันดับของประเทศในเรื่องต่าง ๆ จะบรรลุผลได้ยากเนื่องจากมีปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้จึงควรปรับเป็นตัวชี้วัดที่หน่วยงานเจ้าภาพสามารถพัฒนาได้เอง การจัดทำข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการศึกษาควรจำแนกข้อมูลให้มีความละเอียดก็จะยิ่งสนับสนุนการพัฒนาได้ดียิ่งขึ้น  ตัวอย่างเช่น ข้อมูลสถานศึกษาในภาพรวมควรจำแนกข้อมูลลงไปในระดับพื้นที่ ขนาดโรงเรียน และประเภทของโรงเรียนเพื่อให้สามารถวางแผนการพัฒนาในส่วนที่ต้องซ่อมเสริมตามตัวชี้วัดได้ชัดเจน นอกจากนี้ลักษณะโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่และมีโครงสร้างที่แบ่งเป็นแท่งต่าง ๆ แยกจากกันซึ่งจะยากต่อการขับเคลื่อนงานจึงควรกำหนดกลไกให้สามารถขับเคลื่อนร่วมกันได้ ซึ่งสำนักงาน ป.ย.ป. จะรับไปดำเนินการในงานบูรณาการต่าง ๆ และร่วมขับเคลื่อนแผนกับกระทรวงศึกษาธิการอย่างใกล้ชิดต่อไป